ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

หาดสุดแปลกในแคลิฟอร์เนีย


ใช้เวลาอ่าน 4 นาที
18 มกราคม 2564
กลางแจ้งและธรรมชาติ
ชายหาด

พบกับทรายสีม่วงไปจนถึงซูเปอร์สตาร์ฮอลลีวูดได้ที่ชายหาดแปลกตาเหล่านี้ในแคลิฟอร์เนียที่โดนคนมองข้ามไปอย่างน่าเสียดาย

หาด Rockaway Beach ที่แปซิฟิกา

วิวหาด Rockaway Beach จากเส้นทางปั่นจักรยานริมชายฝั่ง

ชายหาดที่ได้ชื่อว่ามี “ทรายสีช็อคโกแลต” ฟังดูเหมือนฝันที่เป็นจริงสำหรับทุกคนที่อยากเป็นเหมือนวิลลี่ วองก้าในเรื่องชาร์ลีกับโรงงานช็อกโกแลต แม้ว่าทรายที่หาด Rockaway Beach จะกินไม่ได้ก็ตาม แต่ผู้มาเยือนก็จะไม่ผิดหวังแน่นอน ทรายสีน้ำตาลของหาดนี้เกิดจากการกัดเซาะหินปูนมาผสมเข้ากับหินกรีนสโตนจากภูเขาไฟ ทำให้พื้นที่แถบชายฝั่งแปซิฟิกามีบรรยากาศที่ออกจะตราตรึงอยู่ในความทรงจำ แต่ถ้าคุณชอบอะไรหวาน ๆ ในแบบทั่วไปกว่านี้ก็ขอแนะนำให้ไปลองช็อคโกแลตมูสเค้กที่ Oceano Hotel and Spa

หาด Pismo Beach ที่โอเชียโน

ท่าเรือบริเวณชายหาด Pismo Beach pier ในวันที่อากาศสดใส

เพลิดเพลินกับเนินทรายสูงและชายฝั่งทะเลอันงดงามของชายหาด Pismo Beach ได้เต็มที่ด้วยการขับรถเอทีวีพุ่งทะยานเข้าไปหรือจะควบม้าไปก็ได้ ผู้มาเยือนสามารถจอดรถบ้านบนหาดทรายแล้วตั้งแคมป์ได้ แต่ถ้าอยากชมวิวทะเลพร้อมมีที่จอดรถดี ๆ แบบที่ไม่ต้องคอยเช็คว่าคลื่นจะสูงเมื่อไหร่นั้นก็ไปพักที่ Shore Cliff Hotel ได้

หาด Victoria Beach ที่ลากูนาบีช

หอคอย Pirate Tower ที่หาด Victoria Beach

หอคอย Pirate Tower นับเป็นไฮไลท์ของหาด Victoria Beach อย่างไม่ต้องสงสัยเลย ภายในหอคอยมีบันไดวนสไตล์ยุคกลางสูง 18 เมตรซึ่งสร้างขึ้นเมื่อปี 1926 ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ที่อยู่เหนือหาดสามารถลงมาทะเลจากบ้านที่อยู่ยอดผาได้ หนึ่งในเจ้าของหอคอยเคยแต่งตัวเป็นโจรสลัด (จึงเป็นที่มาของชื่อเล่นของหอคอยนี้) และซ่อนเหรียญและขนมไว้ตามก้อนหินต่าง ๆ ให้เด็ก ๆ แถวนั้นมาค้นหา และนักแสดงและนักร้องชาวอเมริกันอย่าง Bette Midler ก็เคยเป็นเจ้าของหอคอยนี้ หากคุณต้องการไปสัมผัสเสน่ห์อันแปลกตาของหาด Victoria Beach ก็ลองไปพักที่ Ranch at Laguna Beach อันงดงามได้

หาด Pfeiffer Beach ที่บิ๊กเซอร์

หาด Pfeiffer Beach เป็นหาดหนึ่งที่มีความเงียบสงบเป็นส่วนตัวมากกว่าหาดอื่น ๆ ในบิ๊กเซอร์

มองแวบแรกหาด Pfeiffer Beach อาจดูเหมือนสถานที่เกิดภัยธรรมชาติ แต่ไม่ทันไรคุณก็จะพบว่าที่นี่เป็นหนึ่งในหาดที่น่ารักที่สุดที่คุณเคยไปกันเลยทีเดียว ผืนทรายเรียบเนียนสีม่วงเป็นประกายที่หาดแห่งนี้เกิดจากการกัดเซาะของเนินเขาในบริเวณใกล้เคียง และทิ้งให้เหลือแร่แมงกานีสไว้บนชายหาด ที่นี่อยู่ในจุดที่หายาก เหมือนกับสถานที่น่าสนใจส่วนใหญ่ในบิ๊กเซอร์ที่ไม่ได้อยู่ในเส้นไฮเวย์ 1 เพราะฉะนั้นจึงควรพักบริเวณใกล้เคียงอย่างที่ Big Sur River Inn และสอบถามคนท้องถิ่นเพื่อให้ได้ข้อมูลเป็นประโยชน์มากที่สุด

หาด Glass Beach ที่ฟอร์ตแบรก

แก้วที่ถูกน้ำทะเลซัดจนเป็นกรวดหินเรียบเนียนที่ฟอร์ตแบรก

ครั้งหนึ่งหาด Glass Beach ที่ฟอร์ตแบรกเคยเป็นจุดทิ้งขยะที่โด่งดังแห่งหนึ่งในแคลิฟอร์เนีย เมื่อหลายทศวรรษผ่านไปหลังจากที่มีการสั่งห้ามทิ้งขยะ แก้วที่ถูกทิ้งไว้ได้ถูกน้ำทะเลซัดจนมีเนื้อเรียบเนียน ทำให้ผืนหาดที่ทอดยาวนี้ส่องประกายเหมือนสมบัติในรังมังกร ที่นี่ไม่ใช่หาดแก้วเพียงแห่งเดียวในโลก แต่เป็นที่รู้จักมากที่สุดและสวยงามที่สุด สัมผัสกับทิวทัศน์งดงามให้เต็มที่ด้วยการเข้าพักที่ Beach House Inn ซึ่งมองเห็นเห็นวิวพาโนรามาของชายฝั่ง

หาด Bowling Ball Beach ที่เมนโดซิโน

ลูกโบว์ลิ่งที่หาด Schooner Gulch Beach

หาด Bowling Ball Beach ที่เมนโดซิโนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหาด Schooner Gulch Beach นั้นประกอบด้วยความมหัศจรรย์ 2 ส่วนและความแปลกอีก 1 ส่วน ดูเหมือนว่าหินทรงกลมขนาดใหญ่ที่หน้าตาเหมือนลูกโบว์ลิ่ง (ซึ่งเรียงรายเป็นระเบียบเรียบร้อยตามชายฝั่ง) เกิดขึ้นจากการที่หินโคลนที่มีความแข็งน้อยกว่าและปกคลุมอยู่ด้านนอกถูกกัดเซาะออกไป เหลือทิ้งไว้แต่หินทรงกลมที่อัดแน่นและเนื้อแข็งกว่ามากอยู่ด้านล่าง แต่ก็มีทฤษฎีเล่น ๆ ว่าหาดแห่งนี้เคยเป็นที่แข่งโบว์ลิ่งสำหรับยักษ์มือสมัครเล่น หลังจากที่ได้ไปดูด้วยตาของตัวเองแล้ว ก็สามารถไปผ่อนคลายชมวิวมหาสมุทรระหว่างที่แช่จากุซซี่ที่ Wharf Master’s Inn

หาด Black Sand Beach ที่ซานฟรานซิสโก

หาด Black Sand Beach ก็เป็นอีกแห่งหนึ่งที่ได้รับความนิยมในการโต้คลื่น

ทรายสีดำและการเปลือยกายอาบแดดอาจฟังเหมือนเป็นการรวมตัวที่แปลก แต่ก็อยากให้คุณลองไปที่หาด Black Sand Beach ซึ่งหันหน้าไปทางทิศใต้ของซานฟรานซิสโกดู ถึงแม้จะไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าเป็นหาดที่เปลือยกายได้ แต่คนท้องถิ่นจำนวนมากก็เห็นว่าหาดแห่งนี้เป็นจุดที่เลือกจะไม่สวมเสื้อผ้าได้ และเมื่อคุณได้เห็นวิวทะเลอันน่าทึ่งแห่งนี้ก็ไม่น่าแปลกใจที่จะรู้สึกเหมือนถูกเรียกร้องให้กลับไปหาธรรมชาติ ทรายสีดำของหาดเป็นภาพที่ตัดกันกับสะพานโกลเดนเกต แต่กว่าจะไปถึงจุดนั้นได้ก็ต้องเดินขึ้นลงหน้าผาชันไปก่อน แล้วไปพักผ่อนที่ Cavallo Point หลังจากนั้น