สถานที่สำหรับสัมผัสงาน Pride ในยุโรป

บรรยากาศ Pride กลับมาอบอวลอีกครั้ง และเราก็ได้รวบรวมสถานที่ดีที่สุดสำหรับไปสัมผัสงานฉลองที่ยินดีต้อนรับ LGBTQ+ มากที่สุดในยุโรปมาไว้ให้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นถนนปูหินที่มีคนเดินขบวนชูธงสายรุ้งอยู่กันแน่นจนเกือบล้น หรือคอนเสิร์ตกลางแจ้งต่าง ๆ ที่เป็นเวทีให้ตั้งแต่การประชันเต้นโว้ก (Voguing) ไปจนถึงการแต่งแดร็ก (Drag) คุณก็จะไม่ผิดหวังกับเมืองยุโรปเหล่านี้หากเป็นเรื่องการเฉลิมฉลองด้านความรัก

แมนเชสเตอร์มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการเคลื่อนไหวปลดแอกชาวเกย์ในยุค 60 ของสหราชอาณาจักร เมืองนี้ยังเป็นหัวหอกมาอย่างต่อเนื่องด้านสิทธิ LGBTQ+ ในช่วงยุค 80 และปัจจุบันก็มีชุมชน LGBTQ+ ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ

ประวัติศาสตร์ของ Pride ในแมนเชสเตอร์นั้นเริ่มขึ้นในปี 1986 เมื่อสภาเทศบาลแมนเชสเตอร์ให้ทุนสนับสนุนการจัดปาร์ตี้บนถนน Oxford Street เป็นเวลา 2 สัปดาห์เพื่อชุมชนชาวเกย์โดยเฉพาะ นับแต่นั้นเป็นต้นมา เมืองนี้ก็โด่งดังจากการจัดปาร์ตี้ Pride ซึ่งดึงดูดผู้คนหลายหมื่นคนจากทั่วโลกให้มารวมตัวกัน และในปีนี้งานฉลองดังกล่าวก็จะจัดขึ้นช่วง 26-29 สิงหาคม 2022

จุดสนใจหลักของอีเวนท์คือพาเหรด Manchester Pride Parade ซึ่งมีเหล่าแนวร่วม นักเคลื่อนไหว และชาว LGBTQ+ พากันเดินขบวนไปตามถนนปูหิน โดยแต่งกายและมีพร็อพสีสันสดใสในแบบที่สื่อถึง “การประท้วงในบรรยากาศปาร์ตี้” ได้ดีที่สุด นอกจากนี้ก็มีอีเวนท์ที่ต้องซื้อตั๋วเข้าร่วมอย่าง “Gay Village Party” ซึ่งเป็นเทศกาล 4 วันที่มีการแสดงสด อาหาร กิจกรรมเน้นกลุ่มครอบครัว และอีกมากมาย เมื่อสนุกสุดเหวี่ยงกับปาร์ตี้จนเหนื่อยแล้ว ขอแนะนำให้กลับไปพักที่ The Edwardian Manchester, A Radisson Collection Hotel เพื่อใช้เวลาค้างคืนอย่างหรูหราในใจกลางเมืองแมนเชสเตอร์

เบอร์ลินมีการจัดปาร์ตี้ Pride ที่เรียกได้ง่าย ๆ ว่าเป็นงานเฉลิมฉลองบนท้องถนนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดงานหนึ่งของโลก ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่น่าแปลกใจอะไร เพราะเมืองนี้โด่งดังเรื่องวัฒนธรรมเที่ยวคลับและเรื่องแนวคิดเสรีนิยม จึงจัดหนักจัดเต็มเมื่อต้องเฉลิมฉลอง Pride และสำหรับปีนี้คุณก็สามารถมาร่วมสนุกกับงานได้ในวันที่ 23 กรกฎาคม 2022

เนื่องจากมีคนประมาณครึ่งล้านมาร่วมฉลอง Berlin Pride หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อว่า Christopher Street Day (CSD) จึงทำให้งานนี้เป็นการฉลอง Pride ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ทว่าท่ามกลางผู้คนและปาร์ตี้ที่มีอยู่อย่างล้นเหลือ แก่นแนวคิดหลักตลอดอีเวนท์นี้ได้มาจากประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยความยากลำบากของชุมชน LGBTQ+ งาน Berlin Pride แรกเริ่มสุดจัดขึ้นในปี 1979 โดยมีผู้หาญกล้ามาเข้าร่วมเพียง 450 คน ในตอนนั้นงานเป็นการเดินขบวนประท้วงมากกว่าที่จะเป็นปาร์ตี้ และจัดขึ้นเพื่อระลึกถึงเหตุจลาจล Stonewall Riots ซึ่งเป็นการลุกฮือกินวงกว้างครั้งแรกของชาว LGBTQ+ เพื่อต่อต้านความโหดร้ายของตำรวจ ทุกวันนี้ Berlin Pride จัดขึ้นเพื่อระลึกถึงเรื่องราวในอดีต โดยมีเวิร์กช็อปจำนวนมากสำหรับให้ความรู้และการเดินขบวนประท้วงไปทั่วเมืองชั้นใน

ทั่วทั้งเมืองต่างออกมาร่วมฉลองในช่วงสุดสัปดาห์ Pride โดยมีตั้งแต่การฉายภาพยนตร์กลางแจ้งไปจนถึงการจัดปาร์ตี้ในบ้านส่วนตัว ขบวนพาเหรดที่ส่องประกายระยิบระยับจะออกจากถนน Kurfürstendamm ไปถึงประตู Brandenburg Gate อันเป็นจุดหมายที่คงบรรยากาศคึกคักเอาไว้จนดึกด้วยคอนเสิร์ตที่สนุกจนต้องชูไม้ชูมือ หลังจบงานก็เดินทางกลับไปนอนบนเตียงแสนสบายได้ที่ Hotel KPM Hotel & Residences ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากประตู Brandenburg Gate ไปไม่ไกล

งาน Edinburgh Pride ทำให้ภาพทิวทัศน์ที่เหมือนกับเทพนิยายของเมืองเอดินบะระเต็มไปด้วยสีสันสดใสและความระยิบระยับราวกับมองผ่านกล้องสลับลาย เมื่อตามรอยย้อนกลับไปถึงต้นตอในปี 1988 งานนี้ถูกเรียกกันอย่างหยาบ ๆ ว่า “Lark in the Park” และเคลมว่าเป็นงานเฉลิมฉลองความหลากหลายงานใหญ่ที่สุดในสกอตแลนด์ ซึ่งโดยชอบธรรมก็เป็นเช่นนั้น เพราะ Edinburgh Pride ล้วนเกี่ยวกับการแสดงออก โดยมีตั้งแต่การต่อสู้เพื่อความเสมอภาคและสิทธิอำนาจทับซ้อน ไปจนถึงการออกมาพูดแสดงความคิดเห็นเรื่องปัญหาต่าง ๆ ของโลก และแน่นอนว่าก็มีการจัดปาร์ตี้ใหญ่ไปพร้อมอีเวนท์ด้วยเช่นกัน

เมื่อถึงวันที่ 25 มิถุนายนอย่าลืมเตรียมปาร์ตี้ให้สุดเหวี่ยงทั่วซอกซอยโบราณของเอดินบะระขณะที่ลัดเลาะไปตามขบวนพาเหรด บาร์ที่จัดธีมไว้ และสถานบันเทิงที่มีอยู่ทั่วเมือง อีเวนท์นี้หลัก ๆ แล้วดูแลจัดการโดยคนท้องถิ่น ดังนั้นแทนที่จะฉูดฉาดและเย้ายวน คุณกลับจะได้เพลิดเพลินกับความพยายามร่วมกันของคนท้องถิ่นที่มีบทบาทขับเคลื่อนวัฒนธรรม LGBTQ+ ของเอดินบะระ จากนั้นเข้าพักที่ Market Street Hotel สุดล้ำทันสมัยและตั้งอยู่ใกล้กับบรรยากาศคึกคักของการเฉลิมฉลอง

เมืองที่ถูกเรียกว่า “เมืองแห่งบาปของยุโรป” ไม่ได้กลัวแต่อย่างใดที่จะจัดงานฉลอง Pride ยาวหลายวันที่รองรับทุกความหลากหลายไม่ว่าคุณจะมีอัตลักษณ์ใดก็ตามบนเฉดสีรุ้ง ประเทศแรกที่ให้ชาวเกย์แต่งงานกันได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายนี้ได้ก้าวสู่ความสำเร็จอย่างมากในช่วง 26 ปีมานี้ เพราะมีกฎหมายที่ให้ความเท่าเทียมร่วมด้วยทัศนคติ “ได้หมดถ้าสดชื่น” ที่สมกับเป็นชาวดัตช์ สำหรับปีนี้ Pride Amsterdam จะจัดขึ้นในอัมสเตอร์ดัมเป็นเวลา 9 วันตั้งแต่ 30 กรกฎาคมจนถึง 7 สิงหาคม 2022

โดยมีตั้งแต่งาน Canal Pride อันโด่งดังที่มีขบวนแห่ลอยมาตามผืนน้ำ ไปจนถึง Pride Walk, Pride Park และ Pride Beach ซึ่งพอจบวันคุณจะได้สัมผัส Pride อย่างจัดหนักจัดเต็มจากงานฉลองทั้งหลายนี้ ในช่วงดังกล่าวมีการวางแผนอีเวนท์ไว้กว่า 300 รายการและธีมของปีนี้คือ “My gender, my pride” (เพศของฉันคือความภูมิใจของฉัน) ซึ่งจะเชิญชวนให้มาโยนทิ้งแนวคิดที่ว่าความสัมพันธ์ปกติจะต้องต่างเพศ รวมถึงชวนมาถอดแนวคิดทางสังคมที่มีต่อเพศชาย เพศหญิง และเพศอื่น ๆ ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการจำแนกเหล่านี้

หากคุณมุ่งมั่นที่จะไปสัมผัส Pride ในหลาย ๆ เมือง ก็อย่าลืมลองดูงาน Utrecht Pride ซึ่งจัดในวันที่ 4 มิถุนายน 2022 ด้วย โดยจากอัมสเตอร์ดัมจะใช้เวลาเดินทางเพียง 20 นาทีด้วยรถยนต์ และที่ริมคลองในอูเทรคต์ซึ่งมีคาเฟ่เรียงรายก็เต็มไปด้วยฝูงชนเนืองแน่นแต่งกายหลากสีสันในช่วงงาน Utrecht Canal Pride ปาร์ตี้บนท้องถนนของที่นี่มีเยอะจนเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด และดูเหมือนกับว่าไหลหลั่งไปตั้งแต่บาร์จนถึงลานระเบียงส่วนตัวและสวนสาธารณะโดยไม่มีขอบเขตชัดเจน ในเมืองจัดคอนเสิร์ตที่ลากยาวไปจนดึกดื่น และตอนที่คุณต้องการเดินทางกลับอัมสเตอร์ดัม ก็สามารถเดินทางด้วยรถยนต์เป็นเพียงระยะสั้น ๆ ไปยังห้องพักแสนสบายที่ Eden hotel Amsterdam

ปารีสเป็นสถานที่ที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเฉลิมฉลองอิสระที่จะรักใครก็ได้ตามต้องการ พร้อมมีฉากหลังแสนโรแมนติกอย่างหอ Eiffel Tower งาน Marche des Fiertés LGBT (หรือ Paris Pride) จัดขึ้นในวันที่ 25 มิถุนายนของปีนี้ และการฉลองต่าง ๆ จะไปตามเส้นทางครอบคลุมย่านที่มีชื่อเสียงที่สุดของปารีส การเฉลิมฉลองนี้นำโดยอาสาสมัครทั้งหมดและเป็นภาพน่าตื่นตาตื่นใจให้เห็นถึงการปฏิเสธอย่างแข็งขันต่อการเลือกปฏิบัติและความเกลียดชัง

Paris Pride มีมานานกว่า 50 ปีตั้งแต่ช่วงปลายยุคโบฮีเมียนของปารีส ซึ่งตอนนั้นที่นี่ถือเป็นที่หลบภัยของเหล่าเสรีชน ทุกวันนี้แต่ละปีมีผู้คนเกือบ 700,000 คนมาร่วมเดินขบวนไปตามท้องถนน และมีจำนวนมากใส่เครื่องแต่งกายน่าทึ่งประกาศศักดาที่อาจทำให้กระทั่งพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ดูหมองไปเลยทีเดียว

ในงานนี้จะได้เห็นทั้งเทศกาล การฉายภาพยนตร์กลางแจ้ง ดนตรี และเวิร์กช็อป ส่วนในตอนค่ำปาร์ตี้ก็จะเข้าสู่ช่วงพีคถึงขีดสุดที่ย่านเกย์ของปารีสอย่าง Le Marais บาร์และคาเฟ่จะจัดปาร์ตี้มีธีมให้คุณได้ขยับเขยื้อนเคลื่อนตัวอยู่ตลอดทั้งคืน จากนั้นเดินทางกลับไปที่ Maison Bréguet สุดหรูหราเพื่อถอดรองเท้าที่ใช้เต้นมาตลอดวันและพักค้างคืนใน “เมืองแห่งความรัก” นี้

เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับบรรยากาศปาร์ตี้ฉลอง Pride ได้ด้วยเพลย์ลิสต์นี้ที่มีเพลงสุดฮิตอันโด่งดัง ซึ่งมีทุกอย่างตั้งแต่ผลงานของ Madonna ไปจนถึง MIKA