7 สถานที่งดงามสำหรับชมดอกไม้ฤดูใบไม้ผลิในญี่ปุ่น

สำหรับผู้ที่อยากหลีกหนีจากความวุ่นวายในช่วงโกลเด้นวีค (ช่วงวันหยุดประจำชาติในญี่ปุ่นที่ครอบครัวและเพื่อนฝูงมักจะใช้เวลาว่างไปเที่ยวด้วยกัน) ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าทริปเที่ยวธรรมชาติ และด้วยวันหยุดยาวประจำปีที่ตรงกับฤดูใบไม้ผลิ สวนดอกไม้ที่มีอยู่มากมายและสวยงามของญี่ปุ่นจึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด

ด้านล่างนี้คือสถานที่ 7 แห่งที่งดงามตระการตาที่สุดในญี่ปุ่นสำหรับไปเยือนในช่วงฤดูใบไม้ผลิ โดยมีตั้งแต่ทุ่งพิงค์มอส (หรือที่เรียกว่ามอสฟล็อกซ์) ที่ทอดยาวไปทางเชิงเขาของภูเขาไฟฟูจิ ไปจนถึงต้นวิสทีเรียอายุ 160 ปีที่สวยงามน่าทึ่ง

ขับรถเพียง 1 ชั่วโมง 20 นาทีจากโตเกียว (หรือนานกว่านั้นเล็กน้อยหากนั่งรถไฟ) ก็จะพบกับสวนดอกไม้อาชิคางะที่เป็นดินแดนมหัศจรรย์แห่งต้นวิสทีเรียที่น่าหลงใหล โดยมีการจัดเทศกาลขึ้นในทุกฤดูใบไม้ผลิ สวนนี้เปิดตลอดทั้งปี โดยมีดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์ (รวมถึงดอกอาซาเลียประมาณ 1,000 ดอกด้วย) ที่เบ่งบานในช่วงเวลาต่าง ๆ กัน เดินเล่นผ่านอุโมงค์ดอกไม้บานแปลกตาซึ่งมีดอกวิสทีเรีย (หรือที่เรียกว่า “ฟูจิ” ในภาษาญี่ปุ่น) ห้อยผ่านโครงไม้เลื้อยทรงซุ้มโค้งที่ทำจากไม้ จากทางเดินที่มีดอกวิสทีเรียสีขาวยาว 80 เมตรไปยังอุโมงค์ที่ทอดข้ามสะพานและดอกไม้อื่น ๆ ที่บานสะพรั่งเป็นสีเหลือง สีม่วง สีฟ้า และสีชมพูสดใส

วิสทีเรียบางส่วนได้รับการประดับไฟในตอนเย็น รวมถึงไฮไลท์ที่น่าสนใจที่สุดจากบรรดาไฮไลท์ทั้งหมดอย่างต้น Great Wisteria Tree อายุ 160 ปี (หรือ “โอฟูจิ”) ด้วยต้นไม้ต้นนี้ล้อมรอบด้วยผืนน้ำที่สะท้อนกลีบดอกไม้และมีชั้นเรือนยอดที่ครอบคลุมพื้นที่ 1,000 ตารางเมตร จึงเป็นภาพที่งดงามตระการตา มุ่งหน้ากลับโตเกียวและค้างคืนที่ MIMARU TOKYO GINZA EAST ใกล้กับสถานีรถไฟ

สวนฮิตาชิซีไซด์ปาร์คเป็นสวนขนาดใหญ่และน่าถ่ายรูป ตั้งอยู่บนชายฝั่งของจังหวัดอิบารากิ และมีชื่อเสียงในเรื่องดอกเนโมฟีล่า (หรืออีกชื่อคือ “เบบี้บลูอายส์”) โดยดอกไม้ชนิดนี้จะบานสะพรั่งในฤดูใบไม้ผลิ และมักจะบานเต็มที่ในช่วงกลางเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม ปกคลุมเนินเขาลูกคลื่นให้เป็นโทนสีฟ้าที่ผสมกลมกลืนไปกับทะเลและท้องฟ้า ออกมาเป็นภาพที่งดงามตระการตา และเมื่อฤดูร้อนมาเยือน ดอกทานตะวัน ดอกป๊อปปี้ และดอกกุหลาบก็จะพากันสร้างสีสันที่สะดุดตา ส่วนในฤดูใบไม้ร่วงนั้น บรรดาพุ่มโคเชียทรงกลม (ไซเปรสฤดูร้อน) ที่ดูราวกับผืนพรมจะเปลี่ยนเนินเขาจากสีเขียวมะนาวเป็นสีแดงเพลิง

แม้แต่ในฤดูหนาวก็ยังมีต้นบ๊วยที่ออกดอกสีเหลืองและสีชมพู ลองเดินป่าไปตามเส้นทางที่คดเคี้ยวผ่านป่า หรือเช่าจักรยานเพื่อสำรวจเส้นทางปั่นจักรยานยาวเกือบ 11 กิโลเมตร สวนแห่งนี้มีทางสำหรับผู้ใช้วีลแชร์และมีรถไฟเล็กที่วิ่งรอบพื้นที่โดยแวะจอดหลาย ๆ จุด หากต้องการความตื่นเต้นยิ่งขึ้น ลองไปที่สวนสนุกซึ่งมีเครื่องเล่นมากมาย เช่น รถไฟเหาะตีลังกาและชิงช้าสวรรค์ที่ให้ทัศนียภาพมุมกว้างของสวนแห่งนี้และทะเล ปิดท้ายวันเที่ยวที่สมบูรณ์แบบนี้ด้วยการปิกนิกในพื้นที่ทำบาร์บีคิว เข้าพักที่โรงแรมที่ได้รับคะแนนสูงอย่าง HOTEL R9 The Yard Hitachinaka ซึ่งใช้เวลาเดินทางสั้น ๆ จากสวนด้วยรถยนต์

สวนฮิสึจิยามะเป็นดั่งสมบัติของชาติที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากโตเกียว บนยอดเขาเหนือเมืองจิจิบุ ทุ่งหญ้าที่เต็มไปด้วยมอสมีดอก (หรือที่เรียกว่า “ชิบะซากุระ”) ในสวนเปลี่ยนเป็นทุ่งกว้างใหญ่ที่เต็มไปด้วยสีชมพู ม่วงไลแลค และม่วงอ่อนในฤดูใบไม้ผลิ ส่วนด้านบนเป็นยอดเขา Mount Bukō และรอบข้างมีป่าซีดาร์ ทิวทัศน์อันงดงามตระการตาแห่งนี้ดึงดูดทั้งนักท่องเที่ยวและคนในท้องถิ่นจำนวนมากตั้งแต่ประมาณกลางเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม

ดอกไม้ที่สวยงามและบอบบางเหล่านี้กว่า 400,000 ดอกได้รับการปลูกเป็นลวดลายรอบ ๆ ทุ่งที่เป็นเนินสูง ๆ ต่ำ ๆ เพื่อให้เกิดภาพดอกไม้สวยงามที่สว่างสดใสเป็นพิเศษเมื่ออยู่ท่ามกลางแสงอาทิตย์ เช็คอินที่ Shomarutoge Garden House อันเงียบสงบซึ่งอยู่ห่างจากสวนแห่งนี้เพียง 23 นาทีเมื่อเดินทางด้วยรถยนต์ ทั้งยังมีทิวทัศน์อันงดงามของโตเกียวในระยะไกล

เพียง 3 ชั่วโมงจากโตเกียวโดยขึ้นรถไฟชินคันเซ็นและต่อด้วยรถไฟธรรมดาหรือรถบัส คุณก็จะมาถึงเมืองเล็ก ๆ อย่างโทนามิ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสวนทิวลิปที่งดงามน่าทึ่งที่มีชื่อเดียวกันกับเมือง และงาน Tonami Tulip Fair ประจำปี (ซึ่งจัดขึ้นตรงกับโกลเดนวีคในปี 2023) ก็เป็นงานที่พลาดไม่ได้ งานนี้จัดขึ้นเป็นเวลา 2 สัปดาห์ มีการจัดแสดงทิวลิป 3 ล้านดอกในสวน โดยปลูกแบบจัดเรียงกันอย่างแม่นยำเป็นแถวสีแดง ส้ม และเหลืองสดใสราวกับสายรุ้ง

อย่าลืมแวะหอชมวิวรูปทรงดอกทิวลิป ซึ่งท่านจะได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพแบบพาโนรามาของทั้งสวน นอกจากนี้ยังมีสระน้ำซึ่งมีแปลงดอกไม้ที่จัดให้เป็นรูปทรงต่าง ๆ ลอยอยู่ ลำธารขนาดเล็กไหลผ่านสวน ระหัดวิดน้ำ สะพาน และทางเดินอันงดงามที่ตัดกันไปมาท่ามกลางทุ่งหอม ๆ เข้าพักในอาคารแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมสไตล์กัสโชที่ Guesthouse Kazura ซึ่งได้รับคะแนนสูง และอยู่ห่างออกไปโดยใช้เวลาเดินทางด้วยรถยนต์ 25 นาที

เทศกาล Fuji Shibazakura Festival ซึ่งมีภูเขาไฟฟูจิที่มียอดปกคลุมด้วยหิมะเป็นฉากหลังที่งดงามดั่งฝันและทุ่งมอสส์ฟลอกซ์สดใสที่ทอดยาวไปยังเส้นขอบฟ้านั้นเป็นสุดยอดงานเทศกาลฤดูใบไม้ผลิที่พลาดไม่ได้ เทศกาลจัดขึ้นในเขตพื้นที่ Fuji Five Lakes ที่งดงามซึ่งตั้งอยู่ที่เชิงภูเขาไฟอันยิ่งใหญ่ เทศกาลนี้เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน - 28 พฤษภาคม แต่เวลาที่ดีที่สุดในการชมดอกไม้บานสะพรั่งมักจะเป็นช่วง 3 สัปดาห์แรกของเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เหมาะเจาะสำหรับทริปโกลเด้นวีค

เดินชมแผงจำหน่ายดอกพิงค์มอสในกระถางขนาดเล็กภายในเทศกาล และของที่ระลึกทุกประเภทในธีมดอกไม้ นอกจากนี้ คุณยังสามารถลิ้มลองและนำผลิตผลและอาหารเลิศรสประจำท้องถิ่นติดไม้ติดมือกลับบ้านได้ด้วย เพราะมีเทศกาล Mt. Fuji Delicious Foods Festival ซึ่งจัดขึ้นในเวลาเดียวกันเพื่อเฉลิมฉลองอาหารที่ดีที่สุดบางเมนูของท้องถิ่น เช่น ฟูจิโนะมิยะยากิโซบะ เช็คอินที่ Hotel Asafuji เพื่อชมทิวทัศน์ทะเลสาบและผ่อนคลายในออนเซ็น

บนเกาะที่มีประชากรเบาบางและงดงามตระการตาอย่างฮอกไกโดนั้น สวน Higashimokoto Shibazakura Park เป็นอีกหนึ่งสถานที่อันยอดเยี่ยมสำหรับการชมมอสพิงค์ ช่วงกลางเดือนพฤษภาคมของทุกปีพื้นที่ตามไหล่เขาทั้งหมดของสวนขนาดมหึมาแห่งนี้แปรเปลี่ยนเป็นเฉดสีแดงอมม่วงที่สดใส โดยมีประตูโทริอิสีชมพูที่เข้ากันตั้งอยู่ด้านบนสุดของเนิน ประตูนี้เป็นทางเข้าศาลเจ้า Yamatsumi Shrine ของสวน ซึ่งอุทิศให้กับเหล่าเทพเจ้าชินโตประจำภูเขา

นอกจากนี้ยังมีหอชมวิวที่มีทิวทัศน์อันสวยงามของภูมิทัศน์โดยรอบ สนามโกคาร์ท สระน้ำที่คุณสามารถตกปลายามาเมะ (ปลาเทราท์ชนิดหนึ่ง) และมีจุดตั้งแคมป์ แต่หากคุณต้องการพักอย่างหรูหราในตัวอาคารมากกว่า ที่พักอย่าง Hokuten no Oka Abashiriko Tsuruga Resort ก็มีบ่อน้ำพุร้อนแบบเปิดโล่งของที่พักเอง และอยู่ห่างจากสวนโดยใช้เวลาเดินทางด้วยรถยนต์เพียงครึ่งชั่วโมง

สวนนิชิยามะอันเก่าแก่บนชายฝั่งทะเลญี่ปุ่นในจังหวัดฟุกุอิก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1856 โดยขุนนางศักดินาในท้องถิ่นเพื่อเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจสำหรับคนทั่วไป ปัจจุบันสวนแห่งนี้ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทุกสารทิศด้วยความงามตามธรรมชาติที่ดูสดใสตระการตา ตั้งแต่ต้นเมเปิล 1,600 ต้นที่เปลี่ยนเป็นสีแดงเพลิงในฤดูใบไม้ร่วง ไปจนถึงต้นซากุระ 1,000 ต้นที่บานสะพรั่งด้วยกลีบสีชมพูในฤดูใบไม้ผลิ (โดยปกติจะบานอย่างเต็มที่ในต้นเดือนเมษายน)

แต่สิ่งที่ทำให้ที่นี่เหมาะสำหรับการมาเที่ยวในช่วงโกลเด้นวีคก็คือพุ่มไม้อาซาเลีย 50,000 ต้นซึ่งบานสะพรั่งเต็มที่ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม อย่าพลาดชมสวนญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมซึ่งมีบ่อปลาคาร์ปของสวนแห่งนี้ หรือจุดชมวิวที่คุณสามารถมองเห็นได้ไกลถึงภูเขาฮาคุซัง เข้าพักที่ Dormy Inn Fukui Natural Hot Spring ที่ได้คะแนนสูง ซึ่งอยู่ห่างจากสวนโดยใช้เวลาขับรถหรือนั่งรถไฟเพียงครึ่งชั่วโมง