ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

6 โรงแรมสุดชิคในนิวยอร์กซิตี้


กิจกรรมน่าสนใจ
ศิลปะ
กีฬาและการผจญภัย

นิวยอร์กซิตี้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองสุดชิคเมืองหนึ่งในโลก และนั่นก็ไม่เกินจริงเลย ผู้คนต่างตบเท้าเข้ามาเยือนเมืองที่ได้ฉายาว่า “บิ๊กแอปเปิ้ล” แห่งนี้เพื่อร่วมแฟชั่นวีคซึ่งจัดขึ้นปีละ 2 ครั้ง โดยแบรนด์ต่าง ๆ จะอวดโฉมเสื้อผ้าสำหรับซีซันที่กำลังมาถึงให้เหล่าผู้ซื้อและบรรดาสื่อจากทั่วโลกได้ชม บินมายังนิวยอร์กซิตี้ในช่วงแฟชั่นวีคแล้วคุณจะได้สัมผัสกับความงดงามที่เปี่ยมชีวิตชีวาที่สุดของเมืองแห่งนี้ และคุณอาจได้เห็นกระทั่งแฟชั่นนิสต้าคนดังในระหว่างที่อยู่ที่นี่อีกด้วย ลองจองโรงแรมที่ทันสมัยแบบสุด ๆ สักแห่งในนิวยอร์กซิตี้เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะไม่ตกเทรนด์

Freehand New York ในแกรเมอร์ซี

Freehand New York ในแกรเมอร์ซี

หากคุณกำลังมองหาห้องพักแสนสบายในสไตล์วินเทจ และมีประวัติศาสตร์มากมาย Freehand New York คือคำตอบของคุณ ที่พักตั้งอยู่ในอาคารที่เคยเป็น George Washington Hotel และมีบุคคลที่สร้างผลงานสร้างสรรค์หลายคนแวะเวียนมาพักที่นี่ในระหว่างที่ค้นหาแรงบันดาลใจจากเบื้องบน โดยผลงานศิลปะของบุคคลเหล่านี้ได้รับเกียรติให้จัดแสดงในห้องอาหารและบาร์ทั้ง 5 แห่งของโรงแรม และบาร์ Broken Shaker ที่อยู่บนดาดฟ้าของโรงแรม Freehand ก็เป็นตัวเลือกที่ดีที่จะปลุกเร้าความคิดสร้างสรรค์ให้พรั่งพรู

The Pierre, A Taj Hotel ในอัปเปอร์อีสต์ไซด์

The Pierre, A Taj Hotel ในอัปเปอร์อีสต์ไซด์

ถ้าเปิดพจนานุกรมหาคำว่า สวยเก๋ ก็อาจเจอ The Pierre, A Taj Hotel ปรากฏบนหน้ากระดาษก็เป็นได้ พื้นหินอ่อนและวอลเปเปอร์แนวภาพลวงตา (Trompe l'oeil) ประดับประดาภายในพระราชวังที่งดงามแห่งนี้ ซึ่งเหมาะสมแล้วที่ตั้งอยู่ในย่านอัปเปอร์อีสต์ไซด์อันมั่งคั่ง ในค่ำคืนที่มีการแสดงดนตรีสดซึ่งจัดอยู่เป็นประจำนั้น ลองคว้าเสื้อผ้ายุค 1930 มาใส่และโยกย้ายในจังหวะฟ็อกซ์ทรอทเพื่อหวนนึกถึงบรรยากาศยุคแจ๊ส และหากคุณอยากออกไปสำรวจข้างนอก เพียงเดินไม่กี่ก้าวก็จะพบกับเซ็นทรัลพาร์ค หรือไปช้อปให้สมใจอยากที่ Bergdorf Goodman’s ซึ่งเดินจากประตูที่พักไปเพียง 4 นาทีเท่านั้น

Crosby Street Hotel ในโซโห

Crosby Street Hotel ในโซโห

Crosby Street Hotel ผสมผสานสถาปัตยกรรมสไตล์อินดัสเทรียลและเฟอร์นิเจอร์แปลกแหวกแนว จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนรักแฟชั่นที่ชื่นชอบการผสมผสานสไตล์วินเทจและร่วมสมัยเข้าด้วยกัน ทำความรู้จักกับย่านนี้โดยเข้าร่วมทัวร์เดินเที่ยว ก่อนจะพักขาที่ลานระเบียงภายในอาคารที่พักหรือข้างเตาผิงในห้องนั่งเล่น หลังจากตะลอนเที่ยวมาแล้วทั้งวัน และถ้าคุณเฝ้าฝันถึงการผ่อนคลายแบบเงียบ ๆ ในยามค่ำคืน โรงแรมก็มีห้องฉายภาพยนตร์แบบส่วนตัวซึ่งมีหนังฉายทุกวันอาทิตย์

SIXTY SoHo ในโซโห

SIXTY SoHo ในโซโห

ถ้าการตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สุดหรูและวิวทิวทัศน์ที่ยอดเยี่ยมตอบโจทย์ความต้องการของคุณ ก็ไม่ต้องมองหาตัวเลือกอื่นนอกจาก SIXTY SoHo จากโรงแรมบูติคแห่งนี้ใช้เวลาเดินเพียง 7 นาทีก็จะถึง Spring Studios ซึ่งเป็นสถานที่จัดแฟชั่นโชว์หลัก ๆ อิ่มอร่อยแบบจุใจได้ที่ Bistrot Leo ซึ่งเสิร์ฟอาหารฝรั่งเศสตลอดทั้งวัน หลังจากอิ่มสบายท้องแล้ว ก็ไปผ่อนคลายและดูเหล่าคนดังที่ Butterfly Soho บาร์และเลานจ์ซึ่งอยู่ในอาคารเดียวกันนี้เอง

The Whitby Hotel ในแมนฮัตตัน

The Whitby Hotel ในแมนฮัตตัน

The Whitby Hotel อาจเป็นโรงแรมที่บรรดาสายช้อปแหลกเลือกเข้าพักเป็นหลัก เพราะตั้งอยู่ใจกลางแมนฮัตตันและไม่ไกลจาก Saks Fifth Avenue ในห้องพักก็มีอะไรให้ชื่นชมมากมายด้วยเช่นกัน เพราะแต่ละห้องมีการตกแต่งภายในอย่างหลากหลายและไม่ซ้ำกับห้องอื่น โดยผสมผสานสไตล์แบบเก่าแก่เข้ากับความสะดวกสบายที่ทันสมัยและตกแต่งด้วยสีสันสดใส ห้องนั่งเล่นทีมีหนังสือเรียงรายเป็นพื้นที่ที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเติมพลัง และเมื่อคุณรู้สึกว่าได้พักอย่างเต็มที่แล้ว ก็ไปดื่มด่ำกับสิ่งมหัศจรรย์มากมายใน Metropolitan Museum of Art โดยใช้เวลาเดินไปเพียง 3 นาทีเท่านั้น

The Greenwich Hotel ในไทรเบกา

The Greenwich Hotel ในไทรเบกา

แฟชั่นวีคในนิวยอร์กซิตี้อาจให้ความรู้สึกสับสนวุ่นวาย เพราะมีสื่อด้านแฟชั่นทั่วโลกพากันมาเยือนเมืองแห่งนี้เป็นเวลา 7 วัน The Greenwich Hotel จึงเปรียบเสมือนโอเอซิสแห่งความสงบที่แตกต่างจากโลกภายนอกหลังกำแพงโดยสิ้นเชิง ใช้เวลาเดินจาก Spring Studios เพียง 7 นาทีก็จะพบกับเตาผิงอุ่น ๆ เก้าอี้เท้าแขนนุ่มสบาย และกระทั่งสระว่ายน้ำใต้ดินและสปารออยู่ ปิดท้ายวันแห่งการผ่อนคลายด้วยอาหารอิตาเลียนที่ Locanda Verde ห้องอาหารสไตล์ทรัตโตเรียซึ่งอยู่ในที่พักแห่งนี้

กำลังจะเดินทางไป “บิ๊กแอปเปิ้ล” ใช่ไหม? เพื่อจูนร่างกายให้เข้าสู่อารมณ์แบบนิวยอร์ก เราขอแนะนำบทเพลงที่คัดสรรมานี้ซึ่งจะปลุกพลังและความตื่นเต้นตามแบบฉบับของนิวยอร์ก โดยมีเพลงทุกสไตล์ตั้งแต่เพลงหวานนุ่มลึกชวนให้นึกถึงความหลังที่ขับกล่อมโดยแฟรงก์ ซินาตรา ไปจนถึงเพลงของเจนนิเฟอร์ โลเปซ และวง The Strokes