ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ความงามทางธรรมชาติอันยอดเยี่ยมที่สุดบนโลกนี้


ประเภททริป
กลางแจ้งและธรรมชาติ
มีความยั่งยืน

สำหรับหลายต่อหลายคนนั้น ความงามทางธรรมชาติอันน่าอัศจรรย์ใจของโลกใบนี้คือสิ่งที่ทำให้อยากหลบไปเที่ยวไกล ๆ เพื่อสัมผัสกับเศษเสี้ยวความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ พบกับสถานที่ 5 แห่งที่สามารถชมทิวทัศน์น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดของธรรมชาติ นับตั้งแต่ธารน้ำแข็งมหึมาซึ่งเคลื่อนตัวลงมาตามไหล่เขาไปจนถึงถ้ำที่ถูกกัดเซาะด้วยลาวา และนอกจากนี้ก็ยังมีที่พักที่ใส่ใจด้านความยั่งยืนซึ่งแสนสะดวกอีกด้วย

ทางเดินยักษ์ที่ไอร์แลนด์เหนือ

ทางเดินยักษ์ได้ชื่อมาจากตำนานและความเชื่อปรัมปรา

ตำนานเล่าว่าครั้งหนึ่งไอร์แลนด์เหนือเคยเป็นที่อยู่ของยักษ์ที่ชื่อว่าฟินน์ แม็คคูล ส่วนในสกอตแลนด์ที่อยู่อีกฟากหนึ่งของทะเลไอริชก็เป็นที่อยู่ของยักษ์อีกตนหนึ่งชื่อเบนันดอนเนอร์ซึ่งได้ข่มขู่คุกคามฟินน์และไอร์แลนด์เหนือ ฟินน์จึงได้ฉีกกระชากชิ้นส่วนของชายฝั่งแอนทริมและโยนลงทะเลเพื่อสร้างเส้นทางซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อทางเดินยักษ์

แม้ตำนานพื้นบ้านจะน่าสนใจ แต่ข้อเท็จจริงที่อธิบายได้ด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์ในการสร้างเส้นทางนี้กลับน่าสนใจยิ่งกว่า เสาหินบะซอลต์ 40,000 แท่งที่ติดกันแน่นนี้เป็นผลมาจากการที่ลาวาเย็นตัวลงจนมีรูปทรงหกเหลี่ยมเกือบสมบูรณ์ โดยเกิดขึ้นเมื่อ 60 ล้านปีที่แล้วในช่วงที่เกิดการระเบิดของภูเขาไฟหลายครั้ง นี่เป็นเครื่องย้ำเตือนที่คงอยู่มาแสนนานถึงพลังของโลกซึ่งยังคงความแข็งแกร่งไร้สิ่งเจือปน หากต้องการให้ทริปเปี่ยมกลิ่นอายตำนานเรื่องเล่านี้ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้นไปอีก ก็ไปเข้าพักที่ Dromore House Historic Country House บ้านพักครอบครัวสไตล์จอร์เจียชื่อดังซึ่งขับรถจากทางเดินยักษ์เพียง 20 นาที

อุโมงค์ลาวามันจังกุลที่เกาหลีใต้

เกาะเชจูเป็นที่ตั้งของอุโมงค์ลาวามันจังกุลอันคดเคี้ยว

อุโมงค์ลาวามันจังกุลตั้งอยู่บนเกาะภูเขาไฟเชจูในเกาหลีใต้ โดยเป็นอุโมงค์ยาว 7 กิโลเมตรที่เกิดจากการกัดเซาะเมื่อลาวาไหลผ่านเมื่อกว่าแสนปีที่แล้ว ด้านในมีเสาลาวาที่ใหญ่ที่สุดในโลกเท่าที่มีการค้นพบมา และผู้มาเยือนสามารถเดินสำรวจอุโมงค์ได้ 1 กิโลเมตรตามเส้นทางธรรมชาตินี้ ภายในอุโมงค์ติดสปอตไลท์หลากสีก่อให้เกิดเป็นสีต่าง ๆ เปลี่ยนไปมาอย่างรวดเร็วอาบไล้ตามแนวหินงอกหินย้อย ทำให้แหล่งมรดกโลก UNESCO แห่งนี้มีบรรยากาศราวกับอยู่ในอีกโลกหนึ่ง

เกาะเชจูขึ้นชื่อว่าเหมาะกับการถ่ายรูปเป็นอย่างยิ่ง ทั้งทุ่งหญ้าที่มีดอกไม้บานสะพรั่ง ป่าที่ปกคลุมไปด้วยมอสส์ และน้ำใสราวกระจกซัดสาดเข้าชายฝั่ง ด้วยธรรมชาติของเกาะภูเขาไฟทำให้เชจูให้ความรู้สึกเหมือนเกาะเขตร้อนอย่างฮาวาย เว้นแต่มีภูเขาน้อยกว่าและที่ราบเปิดโล่งเขียวขจีมากกว่า นอกจากนี้ก็ยังมีเที่ยวบินรายวันจากแผ่นดินใหญ่ไปที่เชจู หลังสำรวจมาแล้วทั้งวันก็ได้เวลาพักผ่อนที่ที่พักแสนผ่อนคลายอย่าง Aewol Stay in Jeju Hotel&Resort ห้องพักของที่นี่กว้างขวางและบริเวณใกล้ที่พักก็มีตัวเลือกด้านการเดินทางมากมาย

เคิร์กจูเฟลที่ไอซ์แลนด์

ว่ากันว่าเคิร์กจูเฟลเป็นภูเขาที่มีคนถ่ายรูปมากที่สุดในโลก

ไอซ์แลนด์เต็มไปด้วยความงามทางธรรมชาติ ไม่ว่าจะหันไปทางใดก็ล้วนทำให้คุณตะลึงกับน้ำตก ภูเขาไฟ ธารน้ำแข็ง ภูเขา ทุ่งลาวา หรือชายฝั่ง ผู้คนหลายล้านแห่กันมาไอซ์แลนด์เพื่อสัมผัสกับความมหัศจรรย์สุดงดงามหลายแห่งของที่นี่ แต่มีอยู่แห่งหนึ่งที่มักจะอยู่ในลิสต์ของทุกคน นั่นก็คือ เคิร์กจูเฟล คำว่าเคิร์กจูเฟลนั้นแปลว่า “ภูเขาโบสถ์” ที่นี่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของคาบสมุทรสไนล์แฟลส์เนสส์ เป็นภูเขาสูง 463 เมตรซึ่งว่ากันว่าเป็นจุดที่มีคนถ่ายรูปมากที่สุดในประเทศ แฟน ๆ เรื่อง Game of Thrones อาจจำภูเขาแห่งนี้ได้ด้วยว่าคือ “Arrow Head Mountain” ในซีรี่ส์โทรทัศน์ชื่อดังเรื่องนี้

ในระหว่างยุคน้ำแข็งครั้งที่แล้ว เคิร์กจูเฟลได้ผงาดขึ้นมาจากใต้ธารน้ำแข็งโดยรอบ ตั้งสูงตระหง่านอยู่เหนือธรรมชาติที่ผันแปรอยู่เสมอ และจะยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไปอีกหลายพันปีข้างหน้า การเดินป่าเป็นกิจกรรมยอดนิยมในพื้นที่นี้ และผู้มาเยือนสามารถเดินตามเส้นทางไปยังน้ำตกเคิร์กจูเฟลฟอสส์ที่มีชื่อเดียวกัน ที่นี่ไม่อนุญาตให้เดินขึ้นเขาเพียงลำพังเพราะความชันของภูเขา แต่คุณสามารถจองบริการไกด์ไว้ล่วงหน้าหากการขึ้นเขาเคิร์กจูเฟลอยู่ในลิสต์ที่จะทำ เข้าพักยามค่ำคืนที่ Stöð Guesthouse and apartments ที่พักริมทะเลซึ่งมองเห็นวิวอันน่าทึ่งของภูเขาลูกนี้

วาดิรัมที่จอร์แดน

กิจกรรมยอดนิยมที่วาดิรัมคือการดูดาวและซาฟารีในทะเลทราย

วาดิรัมเป็นหุบเขาอันโดดเด่นลักษณะเหมือนดาวอังคารซึ่งทอดตัวอยู่ในทะเลทรายสีส้มอมเหลืองของจอร์แดน วาดิรัมได้ชื่อว่าเป็นหุบเขาแห่งพระจันทร์ โดยตัดเข้าไปในหินทรายและหินแกรนิต ทำให้เกิดเป็นแนวเขาหินหน้าตาเหมือนมาจากดาวอื่นซึ่งแทบหาดูไม่ได้ในจุดอื่นบนโลก พื้นที่นี้มีคนอยู่อาศัยมาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ และปัจจุบันนี้ผู้มาเยือนก็ยังสามารถเห็นภาพแกะสลักหิน จารึก และซากโบราณคดียุคโบราณกระจัดกระจายอยู่ในทะเลทราย บริษัททัวร์หลายแห่งจัดทริปสำรวจวาดิรัมทุกวัน

ยามค่ำคืนในวาดิรัมจะมอบประการณ์ที่ไม่อาจหาใครเทียบได้ หุบเขาที่ไกลจากเมืองและตั้งอยู่ในความนิ่งสงบยามราตรีเป็นจุดที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับดูดาว แขนของทางช้างเผือกดูราวกับว่าจะยื่นลงมาในหุบเขามาหาคุณ และดวงดาวที่กระพริบวิบวับก็ถูกขัดจังหวะด้วยดาวตกที่มาโดยไม่คาดคิดเท่านั้น นอนหลับใต้ฟ้ายามราตรีในเต็นท์เบดูอินของแท้ ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการสัมผัสประสบการณ์ในทะเลทราย Beyond Wadi Rum Camp ตั้งอยู่ในใจกลางพื้นที่อนุรักษ์และเขตอนุรักษ์ธรรมชาติ และมีเต็นท์หรูส่วนตัวพร้อมเตียงแสนสบาย

แซนซิบาร์ที่แทนซาเนีย

ชมสัตว์ป่าเขตร้อนและดำดิ่งในทะเลสีฟ้าอมเขียวที่แซนซิบาร์

แซนซิบาร์มีชายหาดงามบริสุทธิ์พร้อมต้นปาล์มเรียงราย พระอาทิตย์ตกอันงดงาม น้ำใสราวกระจก และจุดเหมาะ ๆ สำหรับดำน้ำตื้น เกาะแห่งนี้ตั้งอยู่นอกชายฝั่งแผ่นดินใหญ่ของแทนซาเนียไปประมาณ 25 กิโลเมตรและเต็มไปด้วยความงามทางธรรมชาติ หลายคนจึงเห็นว่าที่นี่คือสวรรค์บนโลกมนุษย์ แม้ว่าเกาะจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในช่วงหลายปีมานี้ แต่ก็ยังมีธรรมชาติน่าชมอีกมากมายรอให้ไปสำรวจและเพลิดเพลิน

นอกจากต้นโกงกางคดโค้งและป่ามะพร้าวสูงตระหง่าน ลากูนตื้นที่มีระลอกคลื่นก็จะเปิดโลกใบใหม่ให้กับคุณ มาอาบแดดผ่อนคลายที่แอ่งน้ำริมฝั่ง หรือจะออกสำรวจไกลออกไปด้วยสน็อกเกิ้ลก็ได้ แนวปะการังที่เผยให้เห็นใต้เกลียวคลื่นเป็นที่อยู่ของสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลทุกชนิดรวมถึงโลมาด้วย ชมโลมาจากระยะห่างที่ปลอดภัยและเหมาะสม เนื่องจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมซึ่งอาศัยในทะเลพวกนี้รักความเป็นส่วนตัว หลังเล่นน้ำมาทั้งวัน ก็ได้เวลามาผ่อนคลายที่ SeVi Boutique Hotel สุดชิคซึ่งเป็นที่พักน่าทึ่งที่มีบังกะโลส่วนตัวพร้อมเฉลียง สระแช่ตัว และวิวริมหาด