เรื่องราวการเดินทางลุยเดี่ยวของผู้หญิง 5 คน

การเดินทางคนเดียวอาจเป็นการผจญภัยที่ยอดเยี่ยม นอกจากจะเป็นการออกไปค้นหาตัวเองซึ่งเป็นแนวคิดทั่วไปที่ได้ยินกันจนเบื่อหูแล้ว การออกท่องโลกกว้างตามลำพังแบบไม่มีใครไปด้วยยังเปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสกับสถานที่ต่าง ๆ ในแบบของคุณเอง สาว ๆ หลายคนอาจจะลังเลที่จะเดินทางคนเดียวในตอนแรก แต่เมื่อได้ลองแล้วจะติดใจ

ข้อมูลของบริษัทวิจัย Hitwise เผยให้เห็นว่าการค้นหาสำหรับการเดินทางคนเดียวในปี 2019 นั้น 55% มาจากผู้ที่ระบุว่าตนเองเป็นผู้หญิง ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไร เพราะฟีด Instagram เต็มไปด้วยภาพขณะออกสำรวจมุมสวย ๆ บนโลกของบรรดาสาว ๆ ที่รักการเดินทาง ปัจจุบันการแบกเป้เที่ยวและโร้ดทริป]ล้วนเป็นกิจกรรมที่ผู้คนต่างหมายตา และด้านล่างนี้ก็คือเรื่องราวของผู้หญิง 5 คนที่ทำงานให้กับ Booking.com ซึ่งได้ออกไปท่องโลกกว้างตามลำพัง

พ่อของ Bethany Hewitt เคยบอกเธอว่า “โลกใบนี้แสนกว้างใหญ่ ลูกอย่าลืมออกไปสำรวจล่ะ” ชีวิตของท่านเต็มไปด้วยการผจญภัยและหลังจากที่ท่านเสีย Bethany ก็ตัดสินใจที่จะทำตามคำสอนของพ่อ และเมื่อเธออายุ 25 ปี เธอก็ได้ซื้อกระเป๋าเป้แบ็คแพ็คและตั๋วเที่ยวเดียวสู่ประเทศไทยให้กับตัวเอง เมื่อไปถึงเธอก็ได้พบกับกลุ่มผู้หญิงสายลุยเดี่ยวสุดเจ๋งซึ่งมาบอกเล่าราวที่น่าทึ่งเกี่ยวกับอาหารและเครื่องดื่ม แม้จะมีเรื่องความแตกต่างทางวัฒนธรรม ภูมิหลัง และภาษา แต่ก็มีสิ่งหนึ่งที่พวกเธอทั้งหมดมีร่วมกัน นั่นคือความชื่นชอบการเดินทางคนเดียว ความรู้สึกที่ช่วยเสริมสร้างพลังจากกลุ่มเพื่อนสาวยังคงอยู่ต่อไปแม้พวกเธอจะแยกจากกันแล้วก็ตาม ประสบการณ์นี้เผยให้เห็นว่าเมื่อเดินทางคนเดียว เราจะได้พบกับผู้คนและทำความรู้จักกับพวกเขาในแบบที่เราคงจะไม่สามารถทำได้หากเดินทางเป็นกลุ่มหรือมีผู้ร่วมเดินทางอีกคน

แม้ Majda Rafii จะเคยไปเยือนมาแล้ว 27 ประเทศ แต่เธอกลับพบว่าสิ่งที่ทำให้สถานที่หนึ่ง ๆ เป็นที่น่าจดจำก็คือการได้พบปะพูดคุยอย่างเป็นกันเองกับผู้คน หลังจากเริ่มคุ้นชินกับการออกจากคอมฟอร์ตโซนของตัวเองแล้ว เธอก็พบว่าตัวเองเป็นคนที่เปิดรับประสบการณ์ใหม่ ๆ มากขึ้นอีกเยอะเลยทีเดียว สิ่งนี้ช่วยกำหนดทัศนคติที่เธอมีต่อชีวิตประจำวัน ทั้งยังมอบโอกาสดี ๆ ให้เธอได้ไปเที่ยวชมสถานที่อันน่าอัศจรรย์ ประเทศที่เธอชอบไปที่สุดคืออินเดีย ซึ่งเธอไปเยือนมาแล้วถึง 6 ครั้ง แม้วิหารทองคำในอัมริตสาและ[ทัชมาฮาลจะทำให้เธอหลงใหล แต่ก็ไม่มากเท่ากับผู้คนที่นั่น ทุก ๆ เช้าที่เธอไปดื่มชาจายในมุมไบก็มักจะได้รับรอยยิ้มที่เป็นมิตรจากเจ้าของร้านอยู่เสมอ นอกจากนี้เธอยังพบกับความอบอุ่นใจที่คล้ายกันนี้ในอีกมุมหนึ่งของโลกที่ทบิลิซี โดยสิ่งที่โดดเด่นที่สุดก็คือหญิงชราคนหนึ่งที่เลี้ยงขนมท้องถิ่นเธอขณะที่ทั้งสองสื่อสารกันโดยใช้เพียงท่าทางภาษามือตลอดการสนทนา

ขุนเขาที่มีหิมะปกคลุมยอดในปาตาโกเนียคอยดึงดูดนักสำรวจสายลุยที่ต้องการมาตื่นตาตื่นใจไปกับเทือกเขาโบราณแห่งนี้อยู่เสมอ แม้ความยิ่งใหญ่ตระการตาของธรรมชาติจะทำให้เรารู้สึกเป็นเพียงสิ่งเล็ก ๆ แต่กลับมอบความสงบให้เช่นกัน และนี่ก็คือความรู้สึกที่ Chelsea Hobbis ประทับใจทุกครั้งที่ได้ชมพระอาทิตย์ขึ้นตามลำพัง พลางรับรู้ได้ถึงความกว้างใหญ่ไพศาลของทวีปแอนตาร์กติกาที่อยู่อีกฟากหนึ่งของขอบฟ้า

เธอคุ้นเคยกับการสำรวจเส้นทางต่าง ๆ ในพื้นที่ภูเขาของอุทยานตอร์เรสเดลไปเนตามลำพัง ทว่าในคืนสุดท้ายในขณะที่เธอกำลังดูดาวอยู่นั้น ชายคนหนึ่งก็เข้ามานั่งข้าง ๆ แล้วถามว่าเธออยากฟังข้อมูลเพิ่มเติมไหมว่าเธอกำลังมองดูอะไรอยู่ เขาดูไม่ใช่คนที่มีพิษมีภัยอะไร Chelsea จึงตอบตกลง แล้วเขาก็ชี้ให้เห็นว่าแขนของกาแล็กซี่ทางช้างเผือกพาดผ่านตรงไหนและอธิบายเกี่ยวกับทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่บนท้องฟ้า ท้ายที่สุดก็ปรากฏว่าชายคนนี้เป็นศาสตราจารย์ด้านดาราศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยชิลีในซานติอาโก เรียกได้ว่าเธอไปอยู่ถูกที่ถูกเวลาจริง ๆ

บ่อยครั้งที่การเดินทางแบบผู้หญิงลุยเดี่ยวมักทำให้เราตกอยู่ในสถานการณ์ที่ทำได้เพียงแค่ต้องเผชิญหน้ากับความกลัวของตนเองเพื่อที่จะเอาชนะความกลัวดังกล่าว สำหรับ Alexia Brink แล้ว การออกท่องเกาะต่าง ๆ คนเดียวในฟิลิปปินส์ได้สอนให้เธอก้าวข้ามความกลัวทะเลเปิดของตนเอง ในระหว่างที่ออกตะลุยจากขุนเขาทางตอนเหนือของลูซอนไปจนถึงชายหาดทางตอนใต้ของมินดาเนา เธอก็ได้รับใบรับรองการดำน้ำในที่เปิด (Open water) และเริ่มดำน้ำแบบฟรีไดฟ์ เธอได้เรียนรู้วิธีสงบจิตใจใต้ท้องทะเลสีฟ้าครามที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นสิ่งที่เธอกลัว แล้วก็ยังได้เก็บภาพสวย ๆ มาอีกด้วย

ทากาเซาท์เป็นหมู่บ้านประมงชนบทในอากาดีร์ ประเทศโมร็อกโก ทั้งยังเป็นจุดหมายยอดนิยมสำหรับทั้งสายโต้คลื่นและสายโยคะ และ Sarah Templeton ก็ต้องหาจุดสมดุลระหว่างการผจญภัยที่ชวนให้อะดรีนาลีนพุ่งพล่านกับการคุมสติให้ใจเย็นตั้งแต่เริ่มต้นการเดินทาง ทริปของเธอเริ่มต้นด้วยความขลุกขลัก โดยมีตั้งแต่เรื่องที่บัตรของเธอตัดไม่ผ่านไปจนถึงเหตุการณ์ที่แคมป์โยคะโต้คลื่นลืมมารับเธอ ทว่า Sarah ยังคงใจเย็นและโชคก็เข้าข้างเธอ เธอรออยู่ที่สนามบินและบังเอิญได้พบกับคนอื่น ๆ จากแคมป์เดียวกัน หลังจากนั้นทริปวันหยุดพักผ่อนที่ดีที่สุดที่เธอเคยสัมผัสมาก็ได้เริ่มต้นขึ้น เธอได้ตื่นขึ้นมาเห็นชาวประมงออกเรือตอนพระอาทิตย์ขึ้น ได้โต้คลื่นทุกวัน และได้ฝึกโยคะขณะที่พระอาทิตย์ตกลงไปในมหาสมุทรแอตแลนติก แต่ความทรงจำที่เธอชอบที่สุดกลับเป็นเหตุการณ์ธรรมดา ๆ ที่มีเด็กชายผู้เสิร์ฟชาที่ชายหาดเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยเธอบังเอิญจ่ายเงินเขาเกิน เขาก็เลยคอยมาเติมชามิ้นต์ผสมอัปแซ็งต์ให้เธอตลอดทั้งวัน ถึงแม้เรื่องนี้จะเป็นความผิดพลาดแต่ก็นับเป็นสิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้น