7 สุดยอดจุดหมายทั่วโลกสำหรับทริปผจญภัย

กระตุ้นอะดรีนาลีนของคุณให้พลุ่งพล่านด้วยการไปเยือนจุดหมายที่ผู้คนทั่วโลกต่างแนะนำว่าเหมาะกับทริปผจญภัยเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก

ผู้เดินทางใจกล้าจะได้สัมผัสประสบการณ์ผจญภัยนับไม่ถ้วนที่ไวโตโม ถ้ำที่ซับซ้อนดั่งเขาวงกตซึ่งซ่อนตัวอยู่ใต้เนินเขาที่ปกคลุมด้วยต้นเฟิร์นและน้ำตก (ชื่อของถ้ำได้นำมาตั้งเป็นชื่อหมู่บ้านและภูมิภาคแถบนี้เช่นกัน) เครือข่ายถ้ำหินปูนใต้ดินที่มีอายุ 30 ล้านปีแห่งนี้ได้รับการสำรวจครั้งแรกในปี ค.ศ. 1887 โดยหัวหน้าเผ่าชาวเมารีในท้องถิ่นชื่อ Tane Tinorau และนักสำรวจชาวอังกฤษชื่อ Fred Mace ถ้ำแห่งนี้มีหนอนเรืองแสงหลายพันตัวส่องแสงระยิบระยับอยู่บนผนังและเพดาน คุณสามารถเข้าร่วมทัวร์พร้อมไกด์ รวมถึงล่องเรือท่ามกลางแสงวิบวับจากสัตว์เรืองแสงเหล่านี้ นอกจากนี้ยังมีทัวร์ “Black water rafting” ซึ่งคุณจะได้ล่องห่วงยางเป่าลมไปตามแม่น้ำใต้ดิน หรือจะขึ้นไปด้านบนพื้นดินเพื่อเดินป่าผ่านดงพุ่มไม้ก็ได้เช่นกัน สำหรับที่พักขอแนะนำ Waitomo Boutique Lodge ซึ่งสามารถขับรถไปยังถ้ำหนอนเรืองแสงได้โดยใช้เวลาสั้น ๆ อีกทั้งยังมีวิวของเทือกเขาโคโรมันเดลเรนจ์

อุทยานแห่งชาติฟองญา-แก๋บ่างเป็นที่ตั้งของถ้ำเซินด่อง ถ้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งเป็นถ้ำใต้ดินขนาดยักษ์ที่เพิ่งมีการค้นพบเมื่อทศวรรษที่ 1990 อีกทั้งยังเป็นดินแดนแห่งการผจญภัยที่มีเทือกเขาโบราณแบบคาสต์และผืนป่า โดยเทือกเขานี้มีอายุประมาณ 400 ล้านปี รวมทั้งยังมีเครือข่ายถ้ำหลายแห่งให้สำรวจในกรณีที่คุณสู้ราคาของทัวร์ถ้ำที่ใหญ่ที่สุดไม่ไหว (ทัวร์ถ้ำเซินด่องมักมีราคาแพงและจัดไม่บ่อย) นอกจากนี้คุณยังสามารถปั่นจักรยานไปตามเส้นทางริมแม่น้ำลำธารในเขตร้อน ผ่านหมู่บ้านในชนบท ตลอดจนทุ่งนาและนาขั้นบันไดสีเขียวสด หรือจะเดินสำรวจพร้อมไกด์และมองหาฝูงลิงแม็กแคกและนกพันธุ์หายากก็ได้เช่นกัน ก่อนไปดื่มด่ำกับทัศนียภาพของภูมิประเทศแบบคาสต์จากลานระเบียงอาบแดดของ Phong Nha-Tuan Garden House

ภูมิประเทศรอบ ๆ เลห์เป็นหนึ่งในสถานที่ที่งดงามราวกับอยู่ในความฝันมากที่สุดของอินเดีย เพราะมีเทือกเขาโล้นสีส้มอมเหลืองที่ตัดกับแม่น้ำและทะเลสาบสีมรกต นอกจากธรรมชาติอันสวยงามแล้ว ที่นี่ยังเป็นจุดหมายยอดนิยมสำหรับขาลุย ลองเข้าร่วมสักกิจกรรมที่จะกระตุ้นอะดรีนาลีนให้พลุ่งพล่านจากตัวเลือกที่มีให้ทำมากมายทั้งบนที่สูงและท่ามกลางภูมิประเทศขรุขระของทะเลทราย ไม่ว่าจะเป็นการปีนเขา ปั่นจักรยาน หรือล่องแก่ง แต่ทว่าวิธีที่ดีที่สุดในการดื่มด่ำกับทัศนียภาพเหล่านี้คือ การเดินไปตามเส้นทางที่สวยงามหลายร้อยเส้นทางที่ทอดตัวไปตามขุนเขา อีกทั้งยังมีวัดพุทธ (Gompa) ตั้งกระจัดกระจายอยู่ตามเส้นทางเหล่านี้ ขอแนะนำให้พักที่ Mentokling Guest House and Garden Restaurant ซึ่งมีธงราวหลากสีที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อทางศาสนา ลานภายในที่เต็มไปด้วยต้นไม้ และมองเห็นวิวภูเขา

แม้ว่าซานกิลจะเป็นเมืองเล็ก ๆ ในเขตเทือกเขาแอนดีสของโคลอมเบีย แต่กลับมีกิจกรรมผจญภัยให้ทำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นล่องแก่ง พายเรือคายัค ร่มร่อนพาราไกลดิ้ง บันจี้จัมพ์ ดิ่งพสุธา หรือขี่ม้า นอกจากจะเป็นจุดเริ่มต้นของการสำรวจอุทยานแห่งชาติ Parque Nacional de Chicamocha แล้ว ซานกิลยังมีพื้นที่โดยรอบอันงดงามตระการตาและเหมาะสำหรับทำกิจกรรมน่าตื่นเต้นที่กล่าวมา ถ้าคุณใจกล้าบ้าบิ่น ก็อย่าพลาดโอกาสเล่นพาราไกลดิ้งเหนือหุบเขา Chicamocha Canyon สุดตระการตา ซึ่งคุณจะได้วิ่งและกระโดดจากหน้าผาสูงชัน ก่อนร่อนลงสู่พื้นด้านล่างที่อยู่ลึกลงไปเกือบ 2,000 เมตรของหุบเขาน่าอัศจรรย์แห่งนี้ หลังจากออกตะลุยทำกิจกรรม ก็ได้เวลาพักผ่อนหย่อนใจที่ลานภายในซึ่งเต็มไปด้วยต้นไฮเดรนเยียและมีแสงแดดสดใสของ Meraki Boutique Hostel

ซานอิกนาซิโอเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่ได้รับความนิยมที่สุดในเบลีซ อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของเครือข่ายถ้ำขนาดใหญ่และป่าฝนเขตร้อน ออกสำรวจโลกใต้ดินที่มีหินย้อยรูปร่างคล้ายเทียนกำลังละลายและฟอสซิลแบบรังผึ้ง ก่อนล่องแก่งหรือพายเรือคายัคไปตามน้ำตกในภูมิภาคนี้ คุณควรเผื่อเวลาให้ที่นี่หลายวันหน่อยเพื่อจะได้มีเวลาขี่ม้าไปยังวิหารมายาโบราณที่อยู่ใกล้ ๆ และถ้าคุณกล้าลุย ก็ลองลงไปสำรวจหลุมยุบหินปูนมืด ๆ สักแห่งจากที่มีอยู่มากมาย สำหรับที่พักขอแนะนำให้พักที่ Vanilla Hills Lodge บังกะโลไม้แสนสวยที่ตั้งอยู่ในป่านอกเมืองซานอิกนาซิโอ

นอกจากจะเป็นจุดแวะเที่ยวระหว่างทางไปน้ำตกวิกตอเรียซึ่งเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว ลิฟวิงสโตนยังเป็นดั่งสวรรค์ของผู้แสวงหากิจกรรมโลดโผน สายน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากออกจากน้ำตกเป็นหนึ่งในจุดล่องแก่งที่ดีที่สุดในโลก ซึ่งคุณสามารถรวมกิจกรรมนี้เข้ากับทริปแคมป์ปิ้งหรือกิจกรรมซาฟารีชมธรรมชาติได้ นอกจากนี้คุณยังสามารถโดดบันจี้จัมพ์ที่สะพานซึ่งเชื่อมระหว่างแซมเบียและซิมบับเว หรือจะพายเรือแคนู โรยตัวจากหน้าผา หรือเล่นซิปไลน์ก็ได้เช่นกัน แต่สิ่งที่พลาดไม่ได้เลยก็คือการลงไปแช่ตัวใน Devil’s Pool แอ่งน้ำตื้น ๆ ซึ่งตั้งอยู่ติดกับขอบน้ำตกแต่กลับมีกระแสน้ำไหลเอื่อยกว่าจุดอื่น อีกทั้งยังเป็นจุดที่รุ้งกินน้ำก่อตัวท่ามกลางอวลไอหมอก สำหรับที่พักขอแนะนำให้พักในชาเลต์ส่วนตัวซึ่งตั้งอยู่ใต้ร่มเงาของต้นไม้พันธุ์พื้นเมืองเก่าแก่ริมฝั่งแม่น้ำแซมเบซี

ลองเยียร์เบียนเป็นเมืองเล็ก ๆ ที่ทำเหมืองถ่านหินบนหมู่เกาะสฟาลบาร์ในมหาสมุทรอาร์กติก โดยเป็นเมืองที่อยู่เหนือสุดของโลก พื้นที่ 60% ของทะเลทรายขั้วโลกเต็มไปด้วยธารน้ำแข็งซึ่งเหมาะสำหรับกิจกรรมเดินสำรวจ หรือจะลองขี่สโนว์โมบิลและนั่งเลื่อนที่ใช้สุนัขลากผ่านฝูงหมีขั้วโลก สุนัขจิ้งจอกอาร์กติก และนกพัฟฟินเพื่อสัมผัสประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตก็ได้เช่นกัน หากลองทั้งหมดนี้แล้วแต่ยังไม่เต็มอิ่มล่ะก็ เพิ่มความท้าทายไปอีกขั้นด้วยการขับขี่รถเอทีวีขึ้นลงภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะของภูมิภาคนี้ สำหรับที่พักก็ต้องเป็นที่บ้านพักไม้สีแดงสไตล์นอร์ดิกที่ Haugen Pensjonat Svalbard